Russian Doll 2 (2022) – รัชเชียน ดอลล์ ซีซั่น 2

สี่ปีหลังจากเหตุการณ์ในซีซั่นแรก นาเดียและอลันได้หลุดพ้นจากวงจรการตายและกลับมาสู่ชีวิตปกติ แต่ความสงบสุขนั้นไม่นานนัก เมื่อพวกเขาค้นพบสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวกว่าการตายไม่รู้จบ – การเดินทางข้ามเวลาที่ไม่สามารถควบคุมได้ การผจญภัยข้ามมิติเวลา นาเดีย พบว่าเธอสามารถเดินทางข้ามเวลาผ่านระบบรถไฟใต้ดินของนิวยอร์ก โดยไปสู่ร่างของบรรพบุรุษหญิงในตระกูลของเธอ: ปี 1982 – เธอเข้าสู่ร่างของแม่ตอนตั้งครรภ์เธอ พยายามแก้ไขความผิดพลาดในอดีต ปี 1968 – เดินทางไปสู่ร่างของย่า เพื่อกู้คืนสมบัติของครอบครัวที่ถูกยึดในสมัยนาซี ปี 1944 – ไปถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเพื่อฟื้นฟูประวัติศาสตร์ครอบครัว อลัน ในขณะเดียวกันถูกส่งไปยังเบอร์ลินตะวันออกปี 1962 และเข้าสู่ร่างของย่าของเขา เพื่อเผชิญหน้ากับความลับดำมืดของตระกูล

ข้อมูลซีรี่ย์สำคัญ
Russian Doll Season 2 เป็นซีรี่ย์ดราม่าคอมเมดี้-ไซไฟที่กลับมาด้วยเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้งและซับซ้อนกว่าเดิม หลังจากที่ซีซั่นแรกได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม ซีซั่น 2 จึงถูกผลิตขึ้นเพื่อสานต่อการเดินทางของ นาเดีย และ อลัน ในการค้นพบความหมายของชีวิตผ่านมิติเวลาที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง
ประเภท: Comedy-Drama, Sci-Fi, Time Travel, Existential
จำนวนตอน: 7 ตอน
ปีออกอากาศ: 2022
วันเข้าฉาย: 20 เมษายน 2022
แพลตฟอร์ม: Netflix
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
ภาษา: อังกฤษ พร้อมซับไทย
ระยะเวลาต่อตอน: 25-30 นาที
ระดับการชม: TV-MA (18+)

ผู้สร้างและทีมงานระดับโลก
ผู้สร้าง:
– Natasha Lyonne – นักแสดงนำ, ผู้สร้าง, ผู้กำกับ, นักเขียนบท
– Leslye Headland – ผู้สร้างร่วม (Russian Doll, The Acolyte)
– Amy Poehler – ผู้สร้างร่วม (Saturday Night Live, Parks and Recreation)
ผู้กำกับ: Natasha Lyonne, Leslye Headland, Alex Buono, Silas Howard
– นักเขียนบท: Natasha Lyonne, Leslye Headland, Allison Silverman, Jocelyn Bioh
– ผู้ผลิตบริหาร: Natasha Lyonne, Leslye Headland, Amy Poehler, Paper Kite Productions, 3 Arts Entertainment
นักแสดงหลักและตัวละครสำคัญ
– Natasha Lyonne รับบทเป็น นาเดีย วูลโวคอฟ
นักพัฒนาเกมส์อายุ 40 ปี ที่ต้องเผชิญกับการเดินทางข้ามเวลาอันน่าสะพรึงกลัว
– Charlie Barnett รับบทเป็น อลัน ซาเวรี่
เพื่อนร่วมชะตากรรมของนาเดียที่ต้องเดินทางไปยังอดีตของตระกูลตนเอง
– Annie Murphy รับบทเป็น ลีโนร่า “นอร่า” วูลโวคอฟ (แม่ของนาเดีย)
นักแสดงจาก Schitt’s Creek ที่รับบทเป็นตัวละครสำคัญในการเดินทางข้ามเวลา
– Chloë Sevigny รับบทเป็น เลโนร่า วูลโวคอฟ (นอร่า)
แม่ของนาเดียที่มีปัญหาทางจิตและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับลูกสาว
นักแสดงสมทบคุณภาพ
– Greta Lee – แม็กซีน (เพื่อนสนิทของนาเดีย)
– Elizabeth Ashley – รูธ (ครูของนาเดีย)
– Sharlto Copley – เชซ (แฟนเก่าของนอร่า)
– Carolyn Michelle Smith – แอกเนส (ย่าของอลัน)
– Irén Bordán – เวร่า (ย่าของนาเดีย)
– Ephraim Sykes – แฟรงค์

ธีมสำคัญที่ซีรี่ย์สื่อสาร
การค้นหาเอกลักษณ์ผ่านรากเหง้าครอบครัว – นาเดียเรียนรู้เกี่ยวกับมรดกของครอบครัวชาวยิวและผลกระทบของประวัติศาสตร์ การเยียวยาความบาดแผลข้ามรุ่น – การแก้ไขความผิดพลาดของอดีตที่ส่งผลต่อปัจจุบัน ความเห็นแก่ตัว vs การเสียสละ – นาเดียต้องเลือกระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับสิ่งที่ดีต่อทุกคน แนวคิดเรื่อง Teshuvah – การกลับสู่ต้นกำเนิดและการลิงขันข้อผิดพลาดตามหลักคิดของศาสนายิว Sheol และโลกหลังความตาย – สถานที่แห่งการพิพากษาและการฟื้นฟูจิตวิญญาณ

จุดเด่นและไฮไลท์
การแสดงระดับเอ็มมี่ – Natasha Lyonne นำเสนอการแสดงที่เข้มข้นและซับซ้อนมากขึ้น
การถ่ายทำข้ามยุคสมัย – ทีมงานสร้างฉากในยุค 1940s, 1960s, และ 1980s ได้อย่างสมจริง
เนื้อหาเชิงประวัติศาสตร์ – การนำเสนอประสบการณ์ของชาวยิวในช่วงสงครามโลกและสงครามเย็น
ซาวด์แทร็กยุค 80s – เพลงประกอบที่ช่วยสร้างบรรยากาศแต่ละยุคสมัย
เทคนิคการถ่ายทำใหม่ – การใช้เทคโนโลยี Virtual Production ในฉากรถไฟใต้ดิน

สิ่งที่คาดหวังได้
ปริศนาที่ซับซ้อนกว่าเดิม – ผู้ชมต้องติดตามรายละเอียดในทุกตอนเพื่อเข้าใจภาพรวม
อารมณ์ที่เข้มข้น – ผสมผสานระหว่างความตลกและความซึ้งถึงใจ
การพัฒนาตัวละคร – นาเดียและอลันเติบโตเป็นบุคคลที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น
จุดจบที่ประทับใจ – การตัดสินใจที่จะเปลี่ยนชีวิตของทุกคนตลอดกาล

หมายเหตุ: ไม่แนะนำให้ดูโดยไม่ได้ดูซีซั่นแรก เนื่องจากเนื้อเรื่องเชื่อมโยงกันอย่างแน่นแฟ้น