The Rhythm Section โคตรสาวมือพระกาฬ
สเตฟานี แพทริค (เบลค ไลฟ์ลี่) หญิงสาวผู้ครั่งครองชีวิตที่สมบูรณ์พร้อมไปด้วยความฝันและความหวัง ได้กลายเป็นเศษซากของมนุษย์หลังจากเหตุการณ์อันเลวร้ายที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล เมื่อสามปีที่แล้ว ครอบครัวของเธอทั้งหมด ทั้งพ่อ แม่ น้องสาว และน้องชายเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตก ในเที่ยวบินที่เธอเองควรจะต้องร่วมเดินทางไปด้วย ความรู้สึกผิดที่รอดชีวิตมาได้ และความเศร้าโศกจากการสูญเสียคนที่รักทั้งหมดในครั้งเดียว ทำให้สเตฟานีตกต่ำอย่างหนัก เธอเลิกเรียนจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดซึ่งเธอเคยเป็นนักศึกษาเก่ง และหันไปใช้ยาเสพติดเพื่อระงับความเจ็บปวดทางใจ ในที่สุดเธอต้องขายตัวเพื่อหาเงินซื้อยาในซ่องโสเภณีแห่งหนึ่งในลอนดอน การเปลี่ยนแปลงจากนักศึกษาที่มีอนาคตสดใสกลายเป็นผู้หญิงที่สิ้นหวังนี้ เป็นภาพสะท้อนของการบอบช้ำทางจิตใจที่รุนแรง ชีวิตที่ล่มสลายของสเตฟานีได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อ คีธ พรอคเตอร์ (ราซา จาฟฟรีย์) นักข่าวสืบสวนมาพบเธอพร้อมกับข้อมูลที่ทำให้เธอต้องตะลึง พรอคเตอร์เผยให้เธอทราบว่าเครื่องบินที่ครอบครัวเธอโดยสารนั้นไม่ได้ตกเพราะอุบัติเหตุ แต่เป็นการวางระเบิดโดยผู้ก่อการร้าย และผู้ก่อเหตุยังคงเดินอยู่อย่างเสรีในลอนดอน การเปิดเผยความจริงครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ทำให้ความเศร้าโศกของเธอกลายเป็นความโกรธแค้นอันลุกโชน ข้อมูลนี้จุดประกายไฟแห่งความโกรธแค้นในจิตใจของสเตฟานี ทำให้เธอมีเป้าหมายใหม่ในชีวิต เธอตัดสินใจเลิกยาและออกตามหาความจริง รวมถึงแสวงหาความยุติธรรมให้กับครอบครัวที่จากไป แต่ก่อนที่จะดำเนินการได้มากนัก พรอคเตอร์ก็ถูกฆ่าตายในอพาร์ตเมนต์ของเขา การเสียชีวิตของพรอคเตอร์ทำให้สเตฟานีรู้ว่าเธอกำลังเข้าไปในโลกที่อันตรายและซับซ้อน จากข้อมูลที่พรอคเตอร์ทิ้งไว้ สเตฟานีได้ตามหาแหล่งข้อมูลของเขา และพบกับ เอียน บอยด์ (จู๊ด ลอว์) อดีตเจ้าหน้าที่ MI6 ที่ถูกไล่ออกและหนีมาอยู่อย่างสันโดษในกระต๊อบแห่งหนึ่งในสกอตแลนด์ บอยด์ซึ่งเป็นคนขี้เมาและมีนิสัยกร้าวร้าว ไม่เต็มใจที่จะช่วยเหลือเธอในตอนแรก เขาเข้าใจดีว่าโลกของการสายลับนั้นโหดร้ายเพียงใด และไม่ต้องการให้ผู้หญิงที่ไม่มีประสบการณ์อย่างสเตฟานีเข้าไปพัวพัน แต่ด้วยความมุ่งมั่นของสเตฟานี และข้อมูลที่เธอนำมา บอยด์จึงยอมฝึกเธอให้เป็นนักฆ่ามืออาชีพ การฝึกอบรมเป็นไปอย่างหนักหน่วงและโหดร้าย เพราะสเตฟานีไม่มีพื้นฐานด้านการต่อสู้หรือการใช้อาวุธมาก่อน บอยด์ต้องสอนเธอทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่การต่อสู้ การใช้อาวุธ การปลอมตัว การสืบข้าว และการอยู่รอดในสถานการณ์อันตราย กระบวนการฝึกฝนนี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนร่างกายของเธอ แต่ยังเปลี่ยนจิตใจของเธอให้กลายเป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง หลังจากการฝึกฝนอย่างหนักหลายเดือน สเตฟานีได้รับเอกลักษณ์ใหม่ในชื่อ “เปตรา รอยเตอร์” นักฆ่าอิสระ และเริ่มภารกิจตามล่าคนร้ายที่ทำลายครอบครัวเธอ การเดินทางนำเธอไปยังมาดริด ที่ซึ่งเธอพบกับ มาร์ค เซอร์รา (สเตอร์ลิง เค. บราวน์) อดีตเจ้าหน้าที่ CIA ที่ปัจจุบันทำธุรกิจขายข้อมูลลับ เซอร์ราเป็นตัวละครที่ซับซ้อน ทั้งเป็นพันธมิตรและอาจเป็นศัตรูในเวลาเดียวกัน เซอร์รากลายเป็นคนคอยให้ข้อมูลสำคัญแก่สเตฟานีในการตามล่าเป้าหมาย แต่โลกของการสายลับนั้นเต็มไปด้วยความหลอกลวงและการทรยศ สเตฟานีต้องเรียนรู้อย่างยากลำบากว่าไม่มีใครที่เธอสามารถเชื่อใจได้อย่างสมบูรณ์ และความแค้นอาจไม่ใช่สิ่งที่จะนำความสุขมาให้เธอ ภารกิจแก้แค้นที่เริ่มต้นด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้า กลับกลายเป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความสงสัยในตัวเองและการตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ถูกผิด
หนังเรื่องนี้นำเสนอมุมมองที่แตกต่างจากหนังแอคชั่นทั่วไป โดยแสดงให้เห็นว่าการเป็นนักฆ่ามืออาชีพไม่ใช่เรื่องง่าย และคนธรรมดาที่ไม่มีประสบการณ์จะต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมาย รวมถึงการตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณค่าของการแก้แค้นและราคาที่ต้องจ่ายเพื่อความยุติธรรม

นักแสดงหลัก The Rhythm Section
– เบลค ไลฟ์ลี่ (Blake Lively) รับบท สเตฟานี แพทริค/เปตรา รอยเตอร์ – หญิงสาวผู้สูญเสียครอบครัวและกลายเป็นนักฆ่า
– จู๊ด ลอว์ (Jude Law) รับบท เอียน บอยด์ – อดีตเจ้าหน้าที่ MI6 ที่กลายเป็นพี่เลี้ยงของสเตฟานี
– สเตอร์ลิง เค. บราวน์ (Sterling K. Brown) รับบท มาร์ค เซอร์รา – อดีต CIA ที่ขายข้อมูลลับ
– ราซา จาฟฟรีย์ (Raza Jaffrey) รับบท คีธ พรอคเตอร์ – นักข่าวสืบสวนที่เผยความจริงให้สเตฟานี
– ทอฟีค บาร์ฮอม (Tawfeek Barhom) รับบท เรซา โมฮัมหมัด – ช่างระเบิดผู้ก่อเหตุร้าย
– แดเนียล เมย์ส (Daniel Mays) รับบท ตัวละครสำคัญในโครงข่ายอาชญากรรม
– แม็กซ์ คาเซลลา (Max Casella) รับบท ตัวละครผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี

ข้อมูลภาพยนตร์
แนวหนัง: แอคชั่น ระทึกขวัญ ดราม่า ลึกลับ แก้แค้น สายลับ
ปีที่ออกฉาย: 2020
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร
ผู้กำกับ: รีด โมราโน (Reed Morano)
ผู้เขียนบท: มาร์ค เบอร์เนลล์ (Mark Burnell) – ดัดแปลงจากนิยายของตัวเอง
ระยะเวลา: 1 ชั่วโมง 49 นาที
เรตติ้ง: R (ภาษาหยาบ ความรุนแรง เนื้อหาผู้ใหญ่)
สตูดิโอ: Paramount Pictures, EON Productions
ผู้ผลิต: ไมเคิล จี. วิลสัน และบาร์บารา บรอกโคลี (ผู้ผลิตภาพยนตร์ James Bond)
คะแนน IMDB: 5.4/10
คะแนน Rotten Tomatoes: 29%

ข้อมูลผู้กำกับ รีด โมราโน
รีด โมราโน เป็นผู้กำกับและผู้กำกับภาพชาวอเมริกัน ที่มีชื่อเสียงจากการกำกับซีรีส์ “The Handmaid’s Tale” ซึ่งได้รับรางวัล Emmy และผลงานภาพยนตร์ “I Think We’re Alone Now” The Rhythm Section เป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์แอคชั่นขนาดใหญ่เรื่องแรกของเธอ โดยใช้ประสบการณ์ในฐานะผู้กำกับภาพมาสร้างภาพที่มีเอกลักษณ์และสมจริง

ทำไมต้องดู The Rhythm Section?
The Rhythm Section เป็นหนังแอคชั่นที่แตกต่างจากหนังในแนวเดียวกัน เพราะนำเสนอมุมมองที่สมจริงมากขึ้นเกี่ยวกับการเป็นนักฆ่า ตัวละครหลักไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ที่สามารถทำทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เป็นคนธรรมดาที่ต้องเรียนรู้และผิดพลาดไปตลอดทาง
เบลค ไลฟ์ลี่ แสดงได้อย่างน่าประทับใจ โดยเปลี่ยนจากภาพลักษณ์สาวสวยมาเป็นนักฆ่าที่บอบช้ำและมีปัญหา การแสดงของเธอแสดงให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานและการต่อสู้ภายในของตัวละคร
จู๊ด ลอว์ และสเตอร์ลิง เค. บราวน์ ก็แสดงสนับสนุนได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะลอว์ในบทพี่เลี้ยงที่กร้าวร้าวแต่มีหัวใจ และบราวน์ในบทนายหน้าสองหน้าที่เต็มไปด้วยความลึกลับ
เหมาะกับใคร: คนรักหนังแอคชั่นที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง แฟนเบลค ไลฟ์ลี่ ผู้ที่ชื่นชอบหนังสายลับและการแก้แค้น และทุกคนที่ต้องการดูหนังแอคชั่นที่แตกต่างจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป

หมายเหตุ: เนื้อหานี้เป็นการสรุปเรื่องย่อโดยไม่เผยฉากสำคัญหรือตอนจบ เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสความตื่นเต้นและความลุ้นระทึกของเรื่องราวอย่างสมบูรณ์